วิธีทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ใน 4 ขั้นตอนแบบง่าย ๆ
แบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไป มีอายุการใช้งานอยู่ที่สามถึงห้าปี อย่างไรก็ตามหากจัดการไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดีก็ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นสั้นลงไปอีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงต้องหมั่นดูแลแบตเตอรี่ของเราให้สะอาดอยู่เสมอ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ ต้องได้รับการทำความสะอาดแล้ว
คุณเคยได้กลิ่นที่คล้ายกับกลิ่นกำมะถันออกมาจากแบตของคุณไหม บางคนก็บอกว่ากลิ่นมันเหมือนกับไข่เน่า แต่ไม่ว่าจะกลิ่นแบบไหน นั่นแปลว่าแบตเตอรี่ของคุณมีอาการรั่ว ซึ่งจะให้เกิดการกัดกร่อนจากน้ำกลั่นที่รั่วออกมาก ถ้ามีขี้เกลือเกิดขึ้นบริเวณขั้วบวกและขั้วลบ แต่รถยังสตาร์ทติด อย่านิ่งนอนใจ เพราะถ้าปล่อยไว้จะทำให้การจ่ายไฟติดขัดและทำให้รถของคุณสตาร์ทไม่ติดแน่นอน
4 ขั้นตอนในการทำความสะอาดแบตเตอรี่ของคุณ
ข้อควรระวังก่อนดำเนินการ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าถอดแบตเตอรี่ออกแล้ว
อย่าให้โลหะสัมผัสกับโลหะ
ทำช้าๆด้วยความระมัดระวัง
เก็บเครื่องมือที่เป็นโลหะไว้ไกลๆ
คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
ขั้นตอนที่ 1: ถอดแบตเตอรี่ออก
ปลดสายไฟออกจากขั้วแบตเตอรี่ลบ จากนั้นปลดสายไฟออกจากขั้วบวก วางสายไฟไว้ข้างๆ อย่าถอดขั้วบวกก่อน เพราะจะทำให้เสี่ยงการถูกไฟดูดได้
ขั้นตอนที่ 2: ผสมน้ำหนึ่งถ้วยกับเบกกิ้งโซดา
เมื่อได้น้ำที่ผสมแล้ว ให้นำมาเทลงไปตรงๆที่บริเวณที่เกิดขี้เกลือ หรือจะใช้ผ้าขี้ริ้วชุบแล้วถูก็ได้ เบกกิ้งโซดาจะช่วยละลายขี้เกลือที่ติดอยู่ออกไปได้อย่างรวดเร็ว
ขั้นตอนที่ 3: ทำความสะอาดขั้วและสายแบตเตอรี่
ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่และสายไฟที่ต่อกับแบตเตอรี่ด้วยแปรงลวดหรือแปรงสีฟันด้วยเบกกิ้งโซดา
ขั้นตอนที่ 4: ต่อแบตเตอรี่
เช็ดส่วนที่เปียกออกจากแบตเตอรี่ เพื่อไม่ให้มีน้ำขังและต่อสายไฟกลับ โดยเริ่มจากขั้วบวกก่อน ตามด้วยขั้วลบ ขันน็อตล็อคตัวเชื่อมต่อให้แน่นเพื่อให้แน่ใจว่าสายเคเบิลจ่อกับแบตเตอรี่แน่นดีแล้ว ค่อยๆลองขยับสายแบตเตอรี่ที่ขั้วดู เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อที่ดี พร้อมใช้งาน
เพียงเท่านี้ ท่านก็สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของท่านได้อย่างง่ายๆ และรถคันโปรดที่รักของท่าน ก็จะมีสมรรถนะที่สมบูรณ์และพร้อมออกเดินทางไปกับท่าน แบบไม่มีอุปสรรคใดๆไปอีกนานเลยทีเดียว